blogger นี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนการสอน วิชา อินเตอร์เน็ตและการสื่อสารในชีวิตประจำวันของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จ. มหาสารคาม

วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เที่ยว หัวหิน อย่างมีศิลปะ

เที่ยว หัวหิน อย่างมีศิลปะ

หัวหิน

เที่ยว หัวหิน อย่างมีศิลปะ (คู่หูเดินทาง)

          หัวหิน เป็นอำเภอหนึ่งใน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว ถือได้ว่าเป็นสถานที่พักตากอากาศ ที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ เพราะการเดินทางสะดวก อยู่ไม่ไกลมากจากกรุงเทพฯ มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ที่พัก ที่กิน ที่เที่ยว มีพร้อม ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้เมืองหัวหิน อยู่ภายในใจนักท่องเที่ยวเสมอมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

         
สถานที่ท่องเที่ยว ก็มีมากมายหลากหลายรูปแบบ จะขี่ม้าเที่ยวริมชายหาด ไปกราบสักการะหลวงปู่ทวดที่วัดห้วยมงคล เล่นไคร์เซิร์ป ตีกอล์ฟ ช้อปปิ้งมีหมด แต่วันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านเที่ยวหัวหินในอีกมุมมองหนึ่งนั่นคือ "ศิลปะ"
สถานีรถไฟหัวหิน

สถานีรถไฟหัวหิน

          ศิลปะแรกที่เราจะพาคุณผู้อ่านไปพบก็คือ ศิลปะทางสถาปัตยกรรม "สถานีรถไฟหัวหิน" ใครไปใครมาเป็นไม่พลาดที่จะไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกัน แน่นอนว่าเรามาถึงหัวหินแล้ว! เป็นสถานีรถไฟที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดของประเทศไทย ตัวอาคารเป็นแบบครึ่งตึกครึ่งไม้เป็นสถาปัตยกรรมแบบวิคทอเรีย มีความละเอียดอ่อนงดงามด้วยลวดลายไม้ฉลุ ไม้ค้ำยัน และสีสันที่สวยงามของตัวอาคาร  โดยเฉพาะ "พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ" ซึ่งเป็นแรงดึงดูดที่สำคัญ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แวะเวียนกันมาเที่ยวชมกันอย่างไม่ขาดสาย
สถานีรถไฟหัวหิน

สถานีรถไฟหัวหิน

          พลับพลามงกุฏเกล้าฯ เป็นพลับพลาจตุรมุขสร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เดิมมีชื่อว่า พลับพลาสนามจันทร์ ตั้งอยู่บริเวณสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม พลับพลาแห่งนี้มีไว้ในการที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ เสด็จประทับทอดพระเนตรกองเสือป่า และลูกเสือทั่วประเทศทำการฝึกซ้อมยุทธวิธีเป็นประจำทุกปี หลังจากพระองค์ท่านเสด็จสวรรคต การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงได้ทำการรื้อถอนมาเก็บไว้ เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์

          ต่อมาในปี พ.ศ.2511 สมัยพันเอกแสง จุลจาริตต์ เป็นผู้ว่าการรถไฟฯ ได้พิจารณาเห็นว่า ควรนำเครื่องอุปกรณ์ก่อสร้างของ พลับพลาสนามจันทร์ มาปลูกสร้างขึ้นใหม่ที่ หัวหิน เพื่อเป็นที่ประทับขึ้นและลงรถไฟของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยใช้ช่างฝีมือคนไทยทั้งหมด และได้มีการทำพิธีเปิดพลับพลา และตั้งชื่อใหม่ว่า พลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ

          เมื่อมองข้ามทางรถไฟไปยังฝั่งตรงข้ามเราก็จะได้พบกับ "หัวรถจักรไอน้ำเก่า" สีดำที่การรถไฟสั่งซื้อมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งหัวรถจักรนี้เคยวิ่งให้บริการ ในเส้นทางรถไฟไทยก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ในปัจจุบันสถานีรถไฟหัวหินยังคงเปิดให้บริการได้ตามปกติ
หัวหิน

หัวหิน

หัวหิน

          ศิลปะที่สองคือ ศิลปะทางธรรมชาติ "ชายหาดหัวหิน" หาดทรายขาว น้ำทะเลใส ลมพัดเย็นสบาย อากาศที่บริสุทธิ์ และท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง พร้อมกับกิจกรรมชายหาดมากมาย จะเล่นน้ำ อาบแดด นอนอ่านหนังสือ เรียกได้ว่าทำกิจกรรมทุกอย่างได้อย่างสบายอารมณ์กันเลยทีเดียว

          โดยเฉพาะกิจกรรมหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของการมาถึงชายหาดหัวหินแล้ว ก็คือ ขี่ม้า โดยจะมีคนจูงม้าให้ไม่อันตราย คิดค่าใช้จ่ายชั่วโมงละ 800 บาท หรือจะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเจ้าม้าเหล่านี้ก็ได้สนนราคาอยู่ที่ 50 บาท คิดเสียว่าเป็นการช่วยอุดหนุนธุรกิจท้องถิ่นของชาวบ้านที่นี่เค้า
หมู่บ้านศิลปินหัวหิน

หมู่บ้านศิลปินหัวหิน



หมู่บ้านศิลปินหัวหิน

หมู่บ้านศิลปินหัวหิน
          ศิลปะที่สามคือ ศิลปะวนาสถาน ณ "หมู่บ้านศิลปินหัวหิน" ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ อาจารย์ทวี เกศางาม ซึ่งเป็นสตูดิโอ-แกลเลอรี่ศิลปะในป่าหัวหินฝั่งตะวันตก เน้นบรรยากาศที่เป็นกันเอง ผ่อนคลาย มีต้นไม้ปกคลุมให้พอร่มเย็น เสริมสร้างความสุขสำหรับผู้ที่เข้าเยี่ยมชม ปัจจุบันมีศิลปินในกลุ่มร่วม 19 ชีวิต ปฎิบัติงานสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในรูปแบบเฉพาะตัวของแต่ละคน โดยมีสตูดิโอของแต่ละศิลปินปลูกสร้างอย่างเรียบง่าย แฝงตัวในเนื้อที่รวม 9 ไร่ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน คือ...
หมู่บ้านศิลปินหัวหิน

          หอศิลป์แสดงผลงานศิลปะ จัดแสดงผลงานชั้นครูที่หาชมได้ยากยิ่ง และศิลปะร่วมสมัยของศิลปินชาติไทยในปัจจุบัน ในส่วนนี้ห้ามถ่ายภาพเด็ดขาด

          ที่พำนักและสตูดิโอสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ของศิลปินกลุ่มเมืองหัวหินจำนวน 8 ครอบครัว กระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ สามารถชมผลงานการวาดภาพกันแบบสด ๆ ขั้นตอนการวาด การลงสี แต่ต้องอยู่ในความสงบไม่งั้นศิลปินอาจจะเสียสมาธิได้

          บ้านดิน 2 หลัง อยู่ทางด้านซ้ายมือของลานจอดรถ จัดแสดงผลงานดินเผาโดยนายดีและแม่องุ่น มีทั้งรูปปั้นพระและเด็ก สร้างสรรค์ไว้อย่างสวยงาม

          บ้านวาดเขียน เวิร์คช้อปสร้างสรรค์งานศิลปะเพื่อสร้างสุขอย่างอิสระ เหมาะสำหรับคุณผู้อ่านที่อยากเรียนรู้งานศิลปะแต่ไม่ค่อยมีเวลา อาทิ วาดรูปสบายใจ เพ้นท์ตุ๊กตาผ้าฝ้าย เรียงร้อยธัญพืช เป็นต้น ด้วยวิธีการเรียนการสอนแบบง่าย ๆ ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงคุณก็จะสามารถมีภาพวาดของระลึกที่เป็นผลงานของคุณเอง จะดีกว่าไหมถ้าของที่ระลึกจากการท่องเที่ยวเป็นผลงานของคุณ!
หมู่บ้านศิลปินหัวหิน

หมู่บ้านศิลปินหัวหิน

          ศิลปินกลุ่มนี้ได้รังสรรค์ผลงานออกสู่สาธารณะชนอย่างสม่ำเสมอ จนเป็นที่รู้จักกันดีในนาม กลุ่มศิลปินหัวหิน (HUAHIN ARTIST GROUP) และด้วยหอศิลป์แสดงผลงานศิลปะของบ้านศิลปินหัวหิน เป็นศูนย์รวมศิลปกรรมระดับประเทศ มีความหลากหลายในด้านรูปแบบทางศิลปกรรม มีคุณค่าหาชมได้ยากยิ่ง อีกทั้งยังเป็นสถานที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน จัดนิทรรศการแสดงผลงานและกิจกรรม ทางศิลปะของเหล่าศิลปินระดับประเทศ ดังนั้น จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงประกาศยกฐานะ "หมู่บ้านศิลปินหัวหิน" เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางด้านศิลปวัฒนธรรมประจำจังหวัด ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

          ทั้งนี้ หมู่บ้านศิลปินหัวหิน อยู่ห่างจากตัวเมืองหัวหินประมาณ 5 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางหัวหิน-บายพาส ไปทางน้ำตกป่าละอูก่อนถึงวัดห้วยมงคล เลขที่ 81 หมู่ 14 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77110 เปิดให้บริการ วันอังคาร-วันอาทิตย์ เวลา 10.00-17.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 032-534830, 087-167-3895 หรือ http://www.baansillapinhuahin.com/, http://www.huahinartistvillage.com/
ตลาดจั่กจั่น

CICADA MARKET

หมู่บ้านศิลปินหัวหิน

หมู่บ้านศิลปินหัวหิน

          ศิลปะสุดท้ายที่จะแนะนำนั่นคือตลาดนัดศิลปะ "ตลาดจั่กจั่น" (CICADA MARKET) เป็นแหล่งรวบรวมชิ้นงานศิลปะร่วมสมัยแขนงต่าง ๆ รวมถึงสิ่งประดิษฐ์ งานแฮนด์เมด ของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้มือสอง สินค้าเอสเอ็มอีที่มีแนวคิดสร้างสรรค์ เพื่อนำมาแสดงและจำหน่ายในสไตล์เปิดเสื่อ สถานที่ตกแต่งสวยงาม เป็นสวนกว้าง ใช้สีขาวเป็นหลักในการตกแต่ง มีมุมนั่งเล่นและรับประทานอาหาร พร้อมทั้งร้านกาแฟสวยเก๋ให้นั่งชิล ๆ อีกด้วย 
ตลาดจั่กจั่น

ตลาดจั่กจั่น

ตลาดจั่กจั่น

          ข้าวของที่นำมาจัดจำหน่ายแต่ละร้านก็จะไม่ซ้ำกัน บ้างมีเสื้อสกรีนลายเก๋ ๆ บ้างก็มีกรอบรูปน่ารัก กระเป๋าสตางค์ กระเป๋านามบัตรหนังแท้ สามารถตอกชื่อลงด้านบนได้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเรา กระเป๋าสะพาย รองเท้า นาฬิกาแฮนด์เมค โอ้ย! เรียกได้ว่าสารพัดงานศิลป์จริง ๆ เลย เมื่อมาเดินเล่นที่นี่ต้องมีของติดไม้ติดมือกลับบ้านแน่นอน และถ้าหากเดินเล่นกันจนเมื่อยแล้ว

          และถ้าใครที่เดินกันจนเมื่อยแล้ว ก็สามารถนั่งพักที่ลานเวทีกลางแจ้งจัดแสดงดนตรีสด การร่ายรำ การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ซึ่งถ้าหากคนที่มาเที่ยวมีความสามารถในการร้องเพลง ก็ขึ้นไปแจมกันบนเวทีได้เลย ใครใคร่เต้นก็เต้น ใครใคร่ร้องก็ร้อง มีดีอะไรก็สามารถนำมาโชว์กันได้ เปิดบริการทุกวัน ศุกร์ – เสาร์ – อาทิตย์ ช่วงเย็นเป็นต้นไป
ตลาดจั่กจั่น

การเดินทาง

          โดยรถยนต์ส่วนตัว ได้ 2 เส้นทาง

          • สายธนบุรี - ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม แล้วเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.เพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านเพชรบุรี เข้าหัวหิน ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

          • สายพุทธมณฑล ผ่านนครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ประมาณ 3 ชั่วโมง

          โดยรถโดยสาร

          เริ่มต้นที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ รถปรับอากาศมี 2 ประเภท คือ ชั้น 1 และ ชั้น 2   รถปรับอากาศชั้น 1 จะจอดเฉพาะอำเภอที่สำคัญเท่านั้น ส่วนรถปรับอากาศชั้น 2 จะแวะจอดรับผู้โดยสารระหว่างทางด้วย
สอบถามตารางเดินรถ บขส. โทรศัพท์ 1490 เรียก บขส.
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ที่มา: http://travel.kapook.com/

ฟังเพลงและชมวิวให้สบายใจกันนะ

วันนี้มีเพลงเบาๆๆ และธรรมชาติที่เกาะสมุยมาฝากเพื่อนๆๆที่รักทุกคนน่ะค่ะ

เดินป่่า....สู่น้ำตก

เดินป่่า....สู่น้ำตก

       หากเรานึกถึงน้ำตกที่สวยๆ ย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องตั้งอยู่กลางป่า แน่นอนว่าการที่จะเข้าไปถึงได้ ย่อมเป็นการเดินเท้าผ่านป่าเข้าไป ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินนักสำหรับผู้ที่มีใจรัก

 

อุปกรณ์ต่างๆ ในการเดินป่า

•เป้หลัง อันนี้เป็นของสำคัญมาก เพราะเราคงไม่อยากที่จะถือสัมภาระต่างๆ มือละอันสองอันเป็นแน่ ไอ้เจ้าเป้หลังเนี่ย จะเป็นที่ๆ รวบรวมเก็บของต่างๆ ไว้ด้วยกัน การเลือกซื้อ เลือกใช้ ก็ควรที่จะเลือกขนาดที่ เหมาะกับ ขนาดของร่างกาย พอเอามาสะพายแล้ว ต้องสบายหลัง ไม่ถ่วงน้ำหนัก เวลาขึ้นที่สูง และยังต้อง ตรวจดู จุดเย็บจุดต่อ ต่างๆ ว่ามีความทนทานหรือไม่ ป้องกันน้ำได้หรือไม่ เพราะเรา จะไปน้ำตกนี่ค่ะย่อมมีโอกาสเปียกน้ำแน่ๆ
•เสื้อผ้า ที่จะต้องนำไปด้วยหากมีการเล่นน้ำหรือ พักแรมในป่า
•รองเท้า เป็นอีกสิ่งที่มีความสำคัญ ควรเลือกชนิดที่พื้นค่อนข้างละเอียด หรือจะใช้รองเท้าผ้าใบก็ได้
•ยา เช่นพวกยากันแมลง ยาประจำตัว หรือ ยาสามัญประจำบ้าน
•เชือก และมีด เชือกควรมีขนาดที่ใหญ่พอที่จะรับน้ำหนักของเราได้ เพื่อว่าจะได้เอาไว้ใช้ได้ หลายประโยชน์
•อุปกรณ์การนอน หากมีการพักแรมในป่า เช่นพวก เต้นท์ ถุงนอน เปลสนาม
•ของใช้อื่นๆ เช่น กล้องถ่ายรูป กระติกน้ำ แผนที่ เข็มทิศ (ปัจจุบันนี้มี GPS ใช้ได้ดีทีเดียว) ถุงพลาสติก เป็นต้น

 

       ก่อนออกเดินทางสู่น้ำตก หรือ เข้าป่า ควรจะศึกษาจุดหมายปลายทาง สอบถามสภาพเส้นทางและลักษณะอื่นๆ ของเส้นทางและจุดหมาย เท่าที่จะนึกออก กับคนนำทาง ที่ให้ถามนี่ไม่ใช่อะไรนะค่ะ จะได้เตรียมทำใจเอาไว้ว่าจะต้องเจอกับอะไรมั่ง หรือไม่ก็ จะได้ตัดสินใจอีกครั้งดีว่า จะเดินหน้าหรือจะถอย ก่อนที่จะออกเดินทาง สัก 30 นาที ก็ขอให้ดื่มน้ำให้อิ่ม และ เติมน้ำให้เต็มกระติก

        ในขณะที่เดินป่า ต้องมีความระมัดระวัง อยู่เสมอ ไม่ควรส่งเสียงดังขณะเดินทาง เพราะป่า ก็เหมือนกับบ้านหลังใหญ่ การที่เราเข้าไปในบ้านของคนอื่น และไม่ให้เกียรติ กับเจ้าของบ้านและแสดงกริยาไม่ดี ย่อมไม่เหมาะแน่ โดยเฉพาะกับเพื่อนๆ ชาว hotelsthailand.com หวังว่าคงไม่ทำอะไร แบบนั้นนะครับ แทนที่เราจะมามัวส่งเสียงดัง ผมว่าเราน่าจะใช้เวลานั้น ศึกษาธรรมชาติจะได้ประโยชน์ มากกว่านะค่ะ อ้อ! ในการเดินป่า ไปเที่ยวน้ำตกเนี่ย มักจะต้องเดิน ไปในบริเวณลำห้วย ลำน้ำ ควรจะความระมัดระวังเพิ่มขึ้นนะค่ะ ทางที่ดี ไม่ควรถอดรองเท้าเดิน เพราะอาจจะมีหินแหลมคม บาดเท้าเอาได้ ควรยอมให้รองเท้าเปียกจะดีกว่า ยกเว้นว่าจะมีใครที่มีเท้าหนา พอๆ กับใบหน้าของนักการเมือง ก็อาจจะถอดได้ค่ะ

         การจัดขบวนการเดิน ก็ควรให้ผู้นำทางหรือคนที่มีมีดและใช้มีดได้ดีอยู่หัวแถว ที่สำคัญ ต้องทิ้งระยะห่าง ให้พอเหมาะ ไม่มากไม่น้อยเกินไป ให้สามารถ มองเห็นกันได้ ตลอดเวลา นอกจากนี้ไม่ควรเดินแซงกัน เดินแยกกัน เพราะอาจ จะทำให้หลง ได้ โดยเฉพาะหากจำเป็นต้องเดินป่าตอนกลางคืน หากสามารถผูกกันไปได้ก็ทำเถอะค่ะ เค้าเคยหลงมาแล้ว ฮิ ฮิ

         หากมีการหลงขึ้นไม่ควรที่จะตะโกนหากัน ควรจะใช้กิ่งไม้หรือท่อนไม้ เคาะต้นไม้ที่สูง เพื่อให้เสียงสะท้อนไปได้ไกลกว่า ผู้ที่หลง ไม่ควรเดินไปไหน อยู่กับที่แล้วใช้ไม้เคาะ อย่างที่บอกจะดีที่สุด

เอาหล่ะ ติ๊ต่างว่า ทุกคนมาถึงที่พักได้โดยสวัสดิภาพ ตอนนี้เราก็เตรียมตัวที่จะตั้งแค้มป์กันได้แล้ว แต่การเที่ยวน้ำตกที่ดีที่สุด ต้องมาเที่ยวหน้าฝน ซึ่งเป็นฤดูที่น้ำตกสวยที่สุด ป่าสมบูรณ์ที่สุด แน่นอนว่า อันตรายที่สุดด้วย เราจึงอยากฝากข้อแนะนำให้เพื่อนๆ สักนิดหน่อยดังนี้ค่ะ


ข้อควรระวังในการตั้งแค้มป์ฤดูฝน

•อย่าตั้งแคมป์บริเวณเนินเขา หรือไหล่เขา เพราะอาจถูกน้ำป่าพัดลงมาจากเขาได้
•อย่าตั้งแคมป์บริเวณที่มีหญ้ารก น้ำขังเฉาะแฉะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีใบไม้เน่าทับถมกันด้วยแล้วหล่ะก้อ ผ่านไปเลยครับ เพราะนอกจากจะเป็นอยู่อาศัยของแมลงและ สัตว์เลื้อยคลานมีพิษแล้ว ยังทำให้เกิดกลิ่นที่เหม็นอบอวลอีกด้วย
•อย่าตั้งแคมป์ใกล้แหล่งน้ำที่มีลักษณะเป็นน้ำนิ่ง โดยเฉพาะบริเวณปลักโคลนของสัตว์ป่าต่างๆ เพราะเป็นแหล่งชุมนุมของยุงก้นปล่องซึ่งเป็นพาหะน้ำเชื้อมาเลเรีย
•หากตั้งแคมป์ใกล้แหล่งน้ำ ควรที่จะตั้งแคมป์บนตลิ่งที่สูงกว่าระดับน้ำ ในระดับที่ปลอดภัย เพื่อป้องกัน ในกรณีที่มีน้ำหลากมาอย่างรวดเร็ว อันจะเป็นอันตรายถึงชีวิต
•อย่าตั้งแคมป์ในที่โล่งจนเกินไป เนื่องจากในฤดูฝน มักจะมีลมค่อนข้างแรงและอาจมีพายุอีกด้วย มันอาจจะหอบเราไปได้ทั้งเต็นท์ หากมีความจำเป็น ต้องตั้งแคมป์ในบริเวณนี้จริงๆ ควรกางเต็นท์ ให้มั่นคง แข็งแรง มากกว่าเดิม
•อย่าตั้งแคมป์ใต้ต้นไม้สูง เพราะหากเกิดฟ้าผ่าหรือลมพายุ ต้นไม้อาจจะหักโค่นลงมาได้
•อย่าตั้งแคมป์ใต้ต้นไม้ที่ขึ้น อยู่โดดเดี่ยวหรือต้นไม้แห้งตายซาก เพราะต้นไม้ ที่ขึ้นอยู่โดดเดี่ยว จะเป็นสื่อให้ฟ้าผ่าได้ง่าย ส่วนต้นไม้แห้ง อาจถูกลมพัด จนทำให้กิ่งไม้แห้ง หักลงมา โดนเรา เป็นอันตรายได้
•อย่าตั้งแคมป์ใกล้ถ้ำ หากจำเป็นก็ต้องตรวจร่องรอยอย่างละเอียดว่า เป็นแหล่งหลบพัก อาศัย ของสัตว์ป่า ที่หนีฝนเข้าไปในถ้ำหรือไม่
•ควรขุดร่องน้ำรอบๆ เต็นท์ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากฝนไหลผ่านใต้เต็นท์ ซึ่งจะทำให้เกิด ความชื้นภายในเต็นท์จนทำให้สัมภาระและตัวเราเปียกได้
•หากเลือกได้ควรเลือกพักภายใต้โขดหิน เพราะสามารถป้องกันกิ่งไม้ที่จะตกหล่นหรือต้นไม้ที่โค่น ลมพายุที่พัดแรง และสายฝนได้เป็นอย่างดี

เห็นมั๊ยค่ะ ว่าการเข้าป่ามันลำบากกว่าการเข้าผับเป็นไหนๆ แต่หลังจากที่ได้อ่านเรื่องนี้แล้ว เราก็แอบมีความหวังในใจลึกๆ ว่าจะมีเพื่อนๆ ที่รักธรรมชาติมาเป็นแนวร่วมนักผจญไพร กับเรา เพิ่มมากขึ้น เอ้า! ใครจะปายยกมือขึ้น
..