ได้เวลาบ่ายอ่อนของวันที่นี้ในการเสาะหาและเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในเมืองเชียงราย และคงจะพลาดไม่ได้กับการมาท่องเที่ยวที่เชียงรายกับสถานที่ท่องเที่ยวที่แสนจะงดงามวิจิตร เป็นสถาปัตยกรรมชั้นเอกของโลก นั่นคือ วัดร่องขุนที่หลายคนรู้จักชื่อกันดี
แม้ว่านี่จะเป็นครั้งที่สองที่ได้มาเยือนสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้แต่ทุกอย่างก็ดูแปลกตาไม่ซ้ำกับเดิมที่เคยมาในหลายปีก่อน ทุกอย่างมีความสมบูรณ์และงดงามวิจิตรและดูร่มรื่นมากขึ้น เพราะต้นไม้จากต้นเล็ก ก็เริ่มเติบใหญ่ตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป
หลังจากที่ตอนเช้าได้เดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์อย่างวัดพระแก้ว วัดพระสิงห์ และไหว้อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช หลังอาหารเที่ยงผมก็ได้เดินทางมาถึงที่วัดร่องขุน แม้ว่าจะเป็นช่วงบ่ายแต่ว่าบรรยากาศภายในวัดยังร่มรื่นอากาศกำลังสบายไม่รู้สึกร้อนอบอ้าวแต่อย่างใด
ถ่ายรูปสวยงามตามมุมต่าง ๆ อย่างที่ได้นำมาฝากให้ชมกัน ก็เข้าไปชมภาพวาดและปฏิมากรรมในหอศิลป์ผลงานที่สุดแสนจะวิจิตรและมีพลังอันเต็มเปี่ยมฝีมืออาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เดินชมอยู่เป็นชั่วโมงเลยทีเดียวครับเพราะผลงานแต่ละชิ้นของอาจารย์ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด และปฏิมากรรมชิ้นต่าง ๆ นอกจากจะมีความงดงาม ล้วนแฝงไปด้วยมุมมองและแง่คิด เหมือนกับคำพูดที่เรามักจะได้ยินอยู่เสมอว่า "มันมีจิตวิญญาณ" ซึ่งผมค่อนข้างเห็นด้วย เพราะผลงานของอาจารย์แต่ละชิ้นที่สร้างขึ้นมาไม่ได้เน้นให้มีความงามแล้วเหมือนกับมีการเติมชีวิตชีวาลงไปด้วย ชมแล้วรู้สึกได้ถึงสิ่งที่อาจารย์ต้องการจะบอกเล่า
เดินชมหอศิลป์อยู่นานสองนาน แต่ก็เสียดายนิดหน่อยที่ไม่สามารถถ่ายรูปด้านในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มาให้ชมกันได้ เอาเป็นว่าของสวย ๆ งาม ๆ หาชมยากต้องไปชมด้วยตาตัวเองถึงที่ครับเอามาฝากกันไม่ได้
ออกมาจากหอศิลป์เราก็เข้าไปไหว้พระที่อุโบสถ ซึ่งขณะที่เดินทางไปนั้นยังอยู่ในช่วงปลูกสร้างและปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ และเมื่อได้กราบพระแล้วเราก็ออกมาซื้อของที่ระลึกติดไม้ติดมือมาฝากคนที่กรุงเทพฯ หลายชิ้นเลยทีเดียว สุดท้ายแนะนำว่าถ้ามาเชียงรายอย่าลืมแวะมาชมสถานที่ท่องเที่ยวเชียงรายที่แสนจะวิจิตรติดอันดับของโลก ซึ่งในอนาคตน่าจะได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสิ่งมหรรจรรย์แน่นอนครับ สวัสดี